การวัดภาวะดื้อต่ออินซูลิน จากลิงค์ที่พี่แนบมา แบ่งเป็น 3 วิธีคือ
การวัดโดยตรงจากระดับเลือด ได้แก่
1. Fasting Insulin Level ระดับปรกติ อยู่ระหว่าง 2.6 – 24.9 micro IU/ml
2. Measurement of response to direct iv infusion of insulin
3. Euglycemic insulin clamp technique
https://emedicine.medscape.com/article/122501-workup#c1
ทั้ง 3 วิธี ทำได้ค่อนข้างยาก เสียเวลาในทางปฏิบัติ จึงเป็นที่มาของวิธีถัดมาคือ
ใช้โมเดลการคำนวณ ซึ่งพี่ปุ๋มเขียนโพสต์นี้ไปแล้ว เมื่อ 2 วันก่อน ว่าเราจะคำนวณค่าภาวะดื้อต่ออินซูลินได้อย่างไร เอามาแปะลิงค์ไว้ให้อีกที เพื่อรวมไว้ในโพสต์เดียว
https://www.facebook.com/573063853038560/posts/702078766803734/
การดูค่าเมตาบอลิกสำคัญที่จะบ่งชี้ถึงการมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ได้แก่
1. ไตรกลีเซอไรด์ที่สูงกว่าปรกติ
2. LDL-Cholesterol ขนาดเล็กและหนาแน่น ที่เพิ่มขึ้น (sd LDL)
3. HDL-Cholesterol ลดลง
4. Fasting Blood Glucose ที่อาจปรกติ หรือ ขยับขึ้น (>100 mg/dl)ให้ดูประกอบกับ Fasting Insulin Level ซึ่งสูงแน่นอน
5. มีระดับกรดยูริกสูงกว่าปรกติ
6. มีความดันโลหิตสูง
7. อ้วน หรือน้ำหนักเกิน
8. มีระดับ HbA1c > 5.7%
การมีภาวะดื้อต่ออินซูลินส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร (ดูรูปที่ 1 ประกอบ)
พี่ปุ๋มเคยเขียนโพสต์ไปเมื่อวันที่ 2 เดือน มิ.ย. เป็นการสรุปงานวิจัย 432 การศึกษา เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะดื้อต่ออินซูลินกับโรคร้ายแรงต่างๆ พบว่าอินซูลินมีบทบาทอยู่ในทุกโรคที่รายงานในงานวิจัยเหล่านั้น พี่แปะลิงค์โพสต์นั้นให้อีกทีนะคะ
https://www.facebook.com/573063853038560/posts/653291371682474/
เอาละมาถึงส่วนที่รอคอยกันแล้วนะคะ แล้วเราจะจัดการย้อนภาวะดื้อต่ออินซูลินด้วยหลักทางโภชนาการอย่างไรบ้าง พี่อ้างอิงจากหนังสือดีชื่อ Syndrome X เขียนโดย Jack Challem
โภชนาการ 9 หลักการในการย้อนภาวะดื้อต่ออินซูลิน
1. หลีกเลี่ยงคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านขบวนการ (Refined Carbohydrate)ได้แก่ แป้งสาลีฟอกขาวที่ป่นจนเป็นฝุ่น ข้าวขาว น้ำตาลทุกประเภท
2. รับประทานอาหารที่มาจากธรรมชาติและสดใหม่ให้มากเท่าที่เป็นไปได้
3. เน้นผักใบเขียวเป็นหลัก ระมัดระวังผักหัว (Starchy Vegetables) ให้เป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต
4. จำกัดปริมาณอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตให้การกระจายพลังงานปานกลางถึงต่ำ (ขึ้นอยู่กับระดับความซีเรียสของค่าตัวแปรเมตาบอลิกที่กล่าวมาแล้ว)
5. หลีกเลี่ยง(พี่ขอให้เลิกเลยค่ะ)เครื่องดื่มน้ำอัดลม เครื่องดื่มผสมน้ำตาลทุกประเภท น้ำผลไม้ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
6. กำจัด (เขาใช้คำว่า eliminate เลยค่ะ) น้ำมันพืชผ่านขบวนการที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 6 ออกไปจากอาหาร และเปลี่ยนมาใช้ น้ำมันมะกอกสกัดเย็นแทน
7. เพิ่มโอเมก้า 3 ในอาหารเสมอเมื่อมีโอกาส
8. งดอาหารที่ deep fried มาการีน และอาหารที่มีส่วนประกอบของ partially hydrogenated oils (งดไขมันทรานส์นั่นเอง)
9. รับประทานโปรตีนในทุกมื้ออาหารและของว่าง
คุ้นๆไหมคะ วิถีชีวิตโลว์คาร์บนี่เอง
› นอกจากนั้น ก็ให้ออกกำลังกายปานกลาง การออกกำลังกายที่แนะนำคือ การเดินเป็นประจำสม่ำเสมอค่ะ (พี่เดินมา 980 กว่าวันเฉลี่ยวันละ 5,000 ก้าว กำลังจะปิดโปรเจค “มหัศจรรย์เดินพันวันเปลี่ยนชีวิต” แล้วค่ะ)
อาหารเสริมที่แนะนำคือ
1. Alpha Lipoic Acid : The Master Nutrient
2. Vitamin E , C
3. Chromium,Zinc, Magnesium, Manganese, Selenium, Vanadium
4. Antioxidants กลุ่ม Flavonoids เช่น quercetin จากหัวหอม และแอ๊ปเปิ้ล Pycnogenol จากเปลือกสนมาริไทม์ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น citrus flavonoids แล้ว่นจากส้มมะนาว เกรปฟรุต ชาเขียว กลุ่ม Carotenoids ต่างๆ เช่น Vitamin A, Coenzyme Q 10, Vitamin D
ในเรื่องอาหารเสริม เดี๋ยวพี่มีเวลา จะมาขยายความให้อีกทีนะคะ ว่ามันช่วยย้อนภาวะดื้อต่ออินซูลินได้อย่างไร
หวังว่าพวกเราจะนำเอาข้อมูลไปปรับใช้เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินกันนะคะ อย่าลืมว่า “อินซูลิน เจ้าพ่อของทุกฮอร์โมน” ค่ะ
Book Ref : The Diabetes Epidemic & You
by Dr.Joseph Kraft
Syndrome X by Jack Challem
The Insulin Resistance
Solution by Dr.Rob Thompson