กุญแจดอกที่ 5 ในการขจัดไขมัน การอดอาหารเป็นช่วงเวลา (Intermittent Fasting)


Fat Out กุญแจไขความรู้ใหม่สู่การขจัดไขมันอย่างยั่งยืน
EP17 ตอนที่ 17 : กุญแจดอกที่ 5 ของการขจัดไขมัน
“การอดอาหารเป็นช่วงเวลา (Intermittent Fasting)”

มาแล้วค่ะ กุญแจดอกที่ 5 ของการขจัดไขมัน รอกันนานพอควรเลยนะคะ ทำไมการอดอาหารเป็นช่วง จึงเป็นอาวุธสำคัญในการขจัดไขมัน Dr.Jason Fung เขียนไว้ในหนังสือ Obesity Code ว่า “What” to eat (คาร์โบไฮเดรตต่ำ โปรตีนสูงปานกลาง ไขมันสูง ใยอาหารสูง) อย่างเดียวไม่พอ ต้อง “When” to eat คือ กินเมื่อไหร่ด้วย จึงจะเป็นสองแรงส่งเสริมกัน ในการขจัดไขมั

การอดอาหารเป็นช่วง มีอยู่ในพิธีกรรมของเกือบทุกศาสนา และใช้การอดอาหารเป็นช่วง ในการรักษาโรคมานานนับตั้งแต่ยุคอิยิปต์ ยุคกรีก มี Quote ของฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์สมัยใหม่ เกี่ยวกับผลของการอดอาหารต่อสุขภาพว่า

“Everyone has a physician inside him or her; we just have to help it in its work. The natural healing force within each one of us is the greatest force in getting well. Our food should be our medicine. Our medicine should be our food. But to eat when you are sick is to feed your sickness.”

ในสมัยโบราณ ตอนที่มนุษย์ยังไม่มีการประดิษฐ์ตู้เย็นใช้เก็บอาหาร ไม่มีร้านสะดวกซื้อ เราไม่กินจุบจิบนะคะ กิน 1-2 มื้อจบแล้วจบกัน ระหว่างมื้อก็ไม่เดินไปร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน แล้วก็กินแสน็คตลอดทั้งวันเหมือนปัจจุบันนี้

ถึงเวลานอน ก็เข้านอนเร็ว ไม่มี internet, social media ให้ใช้เวลาไปกับมันเหมือนปัจจุบัน ทำให้คนรุ่นพ่อแม่เรา ทำ Intermittent Fasting โดยไม่รู้ตัวกันทุกวันโดยปริยาย ช่วงเวลากิน (Fed State) ประมาณ 10 ช.ม. ช่วงเวลาอดอาหาร (Fast State) ประมาณ 14 ช.ม. เขาเลยไม่อ้วนกันเหมือนผู้คนในยุค Digital นี้

ช่วงเวลาที่เราไม่กินอาหาร เป็นช่วงเวลาที่อินซูลินลดต่ำสุด โดยเฉพาะถ้าเราหยุดกินหลัง 18.00 น.เข้านอน 22.00 น. จนถึง 8.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เท่ากับเรา Fasting ได้ 14 ช.ม.เลยทีเดียว เป็นช่วงเวลาทองของการเผาผลาญไขมัน เพราะอินซูลินลดต่ำสุด โกร๊ทฮอร์โมนหลั่งออกมาส่งเสริมการเผาผลาญไขมัน จากการนอนหลับลึกนานพอ ยิ่งถ้าเราขยับการกินมื้อเช้าออกไปเรื่อยๆ จนกินมื้อเช้าตอนเที่ยง เหมือนอย่างที่พี่ปุ๋มทำ เท่ากับเรา Fasting ได้ 18 ช.ม.เลยละค่ะ ยิ่งทำให้อินซูลินลดต่ำสุดได้นานเท่าไหร่ เรากำลังย้อนภาวะดื้ออินซูลิน และร่างกายก็ปรับเข้าสู่โหมดการใช้ไขมันได้เร็วเท่านั้น


Previous articleThe Case Against Sugar
Next articleสรุปหนังสือ The Complete Guide to Fasting
ภญ.โสภิตา ศิริรัตน์
พี่ปุ๋มเคยมีน้ำหนักถึง 92.8 กิโลกรัม เข้าข่ายอ้วนระดับอันตรายเลยค่ะ ปัจจุบันพี่ปุ๋มน้ำหนักลดลง 15 กิโลกรัม เอวลดลง 5 นิ้ว ไขมันลดลงไป 4.8% ซึ่งถึงแม้จะยังมีไขมันส่วนเกินที่ต้องขจัดออกอีกก็ตาม พี่ปุ๋มก็อยากจะแชร์ความรู้ที่ได้จากการอ่านหนังสือสุขภาพดีๆเยอะมาก รวมทั้งตำราวิชาการอื่นๆ นำมาปฏิบัติกับตัวเอง จนเข้าใจการทำงานของร่างกายในการสะสมและขจัดไขมันออก จึงอยากแบ่งปัน และอยากจะให้ทุกคนได้เห็นพัฒนาการการขจัดไขมันของพี่ต่อไป พร้อมๆกับชวนเพื่อนๆให้มาขจัดไขมันส่วนเกินไปด้วยกัน